ท่อร้อยสายไฟคืออะไร มีกี่ประเภท มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

ในงานระบบไฟฟ้าของอาคารบ้านเรือนและโรงงานอุตสาหกรรม ท่อร้อยสายไฟถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่มีบทบาทในการเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นระเบียบให้กับระบบไฟฟ้า แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าท่อร้อยสายไฟมีความสำคัญอย่างไร และมีประเภทใดบ้างที่เหมาะกับการใช้งานในสถานที่แตกต่างกัน บทความนี้ COTCO METAL WORKS จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับท่อร้อยสายไฟให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งข้อดี ข้อเสีย และประเภทต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย

 

ท่อร้อยสายไฟคืออะไร

ท่อร้อยสายไฟ คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันและห่อหุ้มสายไฟฟ้า เพื่อให้การเดินสายไฟมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและปลอดภัยมากขึ้น ท่อร้อยสายไฟทำหน้าที่ปกป้องสายไฟจากการถูกกระแทก ถูกกัดแทะจากสัตว์ หรือความเสียหายทางกายภาพอื่นๆ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันอันตรายจากการลัดวงจรไฟฟ้า โดยจำกัดประกายไฟให้อยู่ภายในท่อ ลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัย ท่อร้อยสายไฟยังช่วยในการจัดระเบียบสายไฟ ทำให้การดูแลและซ่อมบำรุงทำได้สะดวกมากขึ้น และในบางกรณียังช่วยป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอีกด้วย

 

เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของการใช้ท่อร้อยสายไฟ

ข้อดี-ข้อเสียของการใช้ท่อร้อยสายไฟ

การตัดสินใจเลือกใช้ ท่อร้อยสายไฟ ในงานระบบไฟฟ้ามีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งานและความคุ้มค่าในการลงทุน ลองมาพิจารณาข้อดีและข้อเสียของการใช้ท่อร้อยสายไฟกัน

 

ข้อดีของการใช้ท่อร้อยสายไฟ

 

  • ช่วยป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร โดยจำกัดประกายไฟให้อยู่ภายในท่อ ลดความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้
  • ช่วยป้องกันสายไฟจากการถูกกระแทก ถูกสัตว์กัดแทะ หรือการขีดข่วนที่อาจทำให้สายไฟชำรุด
  • ทำให้ระบบไฟฟ้าดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีสายไฟระเกะระกะ สวยงามมากขึ้น
  • ช่วยให้สายไฟมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นเนื่องจากได้รับการปกป้องจากปัจจัยภายนอก
  • สามารถเปลี่ยน หรือเพิ่มสายไฟได้โดยไม่ต้องรื้อผนังหรือโครงสร้างอาคาร
  • ท่อร้อยสายไฟที่ทำจากโลหะสามารถช่วยป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้

ข้อเสียของการใช้ท่อร้อยสายไฟ

 

  •  ต้องลงทุนเพิ่มทั้งในส่วนของวัสดุท่อและค่าแรงในการติดตั้ง มากกว่าการเดินสายไฟแบบเปลือย
  • การติดตั้งท่อร้อยสายไฟใช้เวลามากกว่า เนื่องจากมีขั้นตอนในการดัดท่อ ติดตั้งอุปกรณ์ประกอบ
  • มีข้อจำกัดในการร้อยสายเพิ่มเติมในภายหลัง เนื่องจากพื้นที่ภายในท่อมีจำกัด
  • หากเกิดปัญหา หรือต้องการเปลี่ยนสายไฟที่อยู่ในท่อ จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่า
  • มีความยืดหยุ่นน้อย โดยเฉพาะท่อโลหะแข็ง ไม่สามารถดัดโค้งได้ง่ายเหมือนการเดินสายเปลือย
  • มีน้ำหนักมาก โดยเฉพาะท่อโลหะ อาจกระทบต่อโครงสร้างอาคารที่รับน้ำหนักได้จำกัด
  • การติดตั้งท่อร้อยสายไฟต้องใช้ทักษะและความชำนาญเฉพาะทาง

ท่อร้อยสายไฟมีกี่ประเภท

ท่อร้อยสายไฟมีกี่ประเภท

ท่อร้อยสายไฟสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต ได้แก่ ท่อร้อยสายไฟที่ทำจากโลหะหรือเหล็ก และท่อร้อยสายไฟที่ทำจากพลาสติก ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในแง่ของความแข็งแรง การทนต่อสภาพแวดล้อม และราคา

 

1. ท่อร้อยสายไฟที่ทำจากเหล็ก หรือโลหะ

ท่อร้อยสายไฟประเภทนี้ผลิตจากวัสดุโลหะหรือเหล็ก ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและการป้องกันที่ดี โดยท่อโลหะสามารถแบ่งย่อยออกเป็นหลายชนิดตามความหนาและคุณสมบัติการใช้งาน

 

ท่อ EMT (Electrical Metallic Tubing)

ท่อ EMT หรือท่อร้อยสายไฟผนังท่อบางชนิด EMT ผลิตจากท่อเหล็กกล้าที่ผ่านการเคลือบสังกะสีทั้งภายในและภายนอก ทำให้มีความมันวาว ปลายท่อไม่มีเกลียว ต้องใช้ข้อต่อพิเศษในการเชื่อมต่อ ท่อชนิดนี้มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และมีราคาประหยัด เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในอาคารหรือพื้นที่แห้ง ไม่ควรนำไปใช้ในพื้นที่เปียกชื้น ฝังดิน หรือบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อความเสียหายทางกายภาพสูง ท่อ EMT มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 1/2 นิ้วถึง 2 นิ้ว เป็นที่นิยมใช้ในงานระบบไฟฟ้าทั่วไปเนื่องจากมีราคาไม่แพงและติดตั้งได้สะดวก

 

ท่อ IMC (Intermediate Metal Conduit)

ท่อ IMC หรือท่อร้อยสายไฟผนังท่อหนาปานกลางชนิด IMC ผลิตจากท่อเหล็กที่ผ่านการเคลือบด้วยสังกะสีและอีนาเมล ทำให้มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง ปลายท่อทั้งสองด้านมีเกลียว ช่วยให้การเชื่อมต่อมีความมั่นคงและแข็งแรง ท่อชนิดนี้สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงสามารถฝังในผนังหรือพื้นคอนกรีตได้ ท่อ IMC เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความทนทานสูงกว่าท่อ EMT เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือโครงสร้างกลางแจ้ง มีขนาดตั้งแต่ 1/2 นิ้วถึง 4 นิ้ว เป็นทางเลือกที่สมดุลระหว่างความแข็งแรงและน้ำหนักที่ไม่มากเกินไป

 

ท่อ RSC (Rigid Steel Conduit)

ท่อ RSC หรือท่อร้อยสายไฟผนังท่อหนา ชนิด RSC เป็นท่อเหล็กที่มีความหนามากที่สุดในบรรดาท่อร้อยสายไฟประเภทโลหะ ผ่านการชุบสังกะสีทั้งภายในและภายนอก ด้วยระบบ Blow type ทำให้มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อนสูงมาก ปลายท่อทั้งสองด้านมีเกลียวที่แข็งแรง เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น สถานที่อันตราย พื้นที่เปียกชื้น หรือฝังใต้ดิน ท่อ RSC มีความปลอดภัยสูงสุดและสามารถรับแรงกระแทกได้ดี มีขนาดตั้งแต่ 1/2 นิ้วถึง 6 นิ้ว ใช้ในโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องการความแข็งแรงทนทานสูง เช่น อาคารสูง สถานีไฟฟ้า หรือโรงงานอุตสาหกรรมหนัก

 

ท่อโลหะชนิดอ่อน

ท่อโลหะชนิดอ่อน หรือ Flexible Metal Conduit เป็นท่อที่ทำจากแผ่นเหล็กกล้าเคลือบสังกะสีขึ้นรูปแบบเป็นรอยหยัก ทำให้มีความยืดหยุ่น สามารถโค้งงอได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการดัด เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มีการสั่นสะเทือน เช่น มอเตอร์ เครื่องจักร หรือดวงโคม หรือการเดินท่อในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดและต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง ท่อชนิดนี้มีขนาดตั้งแต่ 1/2 นิ้วถึง 4 นิ้ว ควรใช้ในสถานที่แห้ง ไม่เหมาะกับพื้นที่เปียกชื้นหรือมีสารเคมีรุนแรง นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่มีปลอกพลาสติกหุ้มภายนอกเพื่อป้องกันความชื้น เรียกว่า ท่อโลหะอ่อนกันน้ำ (Liquidtight Flexible Metal Conduit)

 

2. ท่อร้อยสายไฟที่ทำจากพลาสติก

ท่อร้อยสายไฟประเภทพลาสติกมีน้ำหนักเบา ราคาถูกกว่าท่อโลหะ และไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในบางกรณี อย่างไรก็ตาม อาจมีความทนทานน้อยกว่าท่อโลหะและอาจไม่เหมาะกับบางสภาพแวดล้อม

 

ท่อพีวีซี (PVC) สีเหลือง

ท่อพีวีซีสีเหลือง เป็นท่อร้อยสายไฟที่ผลิตจากพลาสติกประเภทพีวีซี (Polyvinyl Chloride) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเปลวไฟได้ มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และราคาประหยัด ท่อชนิดนี้ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในบางกรณี และไม่เกิดสนิม เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในอาคาร หรือการฝังในผนังคอนกรีต

ท่อพีวีซีสีเหลืองมีขนาดตั้งแต่ 1/2 นิ้วถึง 4 นิ้ว และมีความยาวมาตรฐาน 4 เมตรต่อท่อน การต่อท่อใช้น้ำยาประสานท่อพีวีซี ทำให้การติดตั้งรวดเร็วและไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษมากนัก 

อย่างไรก็ตาม ท่อชนิดนี้มีข้อเสียคือไม่ทนต่อแสง UV จึงไม่เหมาะกับการติดตั้งกลางแจ้ง และในขณะเกิดเพลิงไหม้ จะปล่อยก๊าซพิษที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรงน้อยกว่าท่อโลหะ จึงไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกกระแทกหรือเกิดความเสียหายทางกายภาพ

 

ท่อ HDPE (High Density Polyethylene)

ท่อ HDPE เป็นท่อพลาสติกที่ผลิตจากโพลีเอทิลีนความหนาแน่นสูง มีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นได้ดี ทนต่อแรงกดทับได้สูง และมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอก รวมถึงรังสี UV ได้ดีกว่าท่อ PVC ท่อชนิดนี้มีทั้งแบบผิวเรียบและแบบลูกฟูก ซึ่งแบบลูกฟูกจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า สามารถโค้งงอได้โดยไม่ต้องใช้ข้อต่อ ทำให้การติดตั้งรวดเร็วและสะดวก

ท่อ HDPE เหมาะสำหรับการฝังใต้ดิน การเดินสายในพื้นที่โล่ง หรือบนฝ้าเพดานในอาคาร สามารถทนต่อแรงกดอัดได้ดี จึงเหมาะกับงานที่ต้องรับน้ำหนักหรือแรงกดทับ เช่น การฝังใต้ถนนหรือลานจอดรถ ท่อชนิดนี้มีขนาดตั้งแต่ 1/2 นิ้วขึ้นไปถึงขนาดใหญ่ เป็นที่นิยมในงานเดินสายไฟแรงต่ำและแรงสูงใต้ดิน เนื่องจากติดตั้งง่าย มีความยืดหยุ่นสูง และทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีในดินได้ดี

 

ควรเลือกใช้ท่อร้อยสายไฟเหล็ก หรือท่อร้อยสายไฟพลาสติกดี?

การเลือกระหว่างท่อร้อยสายไฟเหล็ก และท่อร้อยสายไฟพลาสติก ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ทั้งลักษณะการใช้งาน สภาพแวดล้อม และงบประมาณ ท่อเหล็กมีความแข็งแรงทนทานสูง สามารถป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และให้การป้องกันทางกายภาพที่ดีกว่า เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกกระแทก พื้นที่อันตราย หรือต้องการความปลอดภัยสูง แต่ท่อเหล็กมีน้ำหนักมาก ราคาสูง และติดตั้งยุ่งยากกว่า

ในขณะที่ท่อพลาสติกมีน้ำหนักเบา ราคาถูกกว่า ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า และติดตั้งง่ายกว่า เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปภายในอาคาร หรือพื้นที่ที่ไม่ต้องการความแข็งแรงมาก แต่ท่อพลาสติกมีความทนทานน้อยกว่า และบางชนิด เช่น PVC ไม่เหมาะกับการติดตั้งกลางแจ้งเนื่องจากไม่ทนแสง UV

ตารางการเปรียบเทียบท่อร้อยสายไฟทั้งสองประเภทอย่างละเอียด

หัวข้อ

ท่อร้อยสายไฟเหล็ก

ท่อร้อยสายไฟพลาสติก

ความแข็งแรง

มีความแข็งแรงทนทานสูง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี

มีความแข็งแรงน้อยกว่า ไม่ทนต่อแรงกระแทกมาก

น้ำหนัก

หนัก ต้องใช้อุปกรณ์ยึดที่แข็งแรง

เบา ติดตั้งและขนย้ายสะดวก

ราคา

สูงกว่า ทั้งวัสดุและค่าแรงในการติดตั้ง

ประหยัดกว่า ทั้งวัสดุและค่าแรง

การติดตั้ง

ต้องใช้เครื่องมือพิเศษและช่างที่มีความชำนาญ

ติดตั้งง่าย ใช้เครื่องมือทั่วไป

อายุการใช้งาน

ยาวนานกว่า 20-30 ปี

ประมาณ 10-20 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม

การทนสภาพแวดล้อม

ทนต่อสภาพอากาศ แสงแดด และสารเคมีได้ดี

ท่อ PVC ไม่ทนแสง UV, ท่อ HDPE ทนได้ดีกว่า

การป้องกัน EMI

สามารถป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

ไม่สามารถป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

ความปลอดภัยจากเพลิงไหม้

ไม่ติดไฟ ช่วยจำกัดการลุกลามของไฟ

ท่อ PVC ติดไฟได้และปล่อยก๊าซพิษ

การใช้งานกลางแจ้ง

เหมาะสมมาก

ท่อ PVC ไม่เหมาะสม, ท่อ HDPE เหมาะสมกว่า

การฝังดิน

สามารถฝังดินได้ (โดยเฉพาะท่อ RSC)

ท่อ HDPE เหมาะสมสำหรับฝังดิน, ท่อ PVC ไม่เหมาะสม

 

สรุปบทความ

ท่อร้อยสายไฟเป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความเป็นระเบียบ และยืดอายุการใช้งานของสายไฟ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ ท่อโลหะและท่อพลาสติก ซึ่งแต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป การเลือกใช้ท่อร้อยสายไฟที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อมจะช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาท่อเหล็กร้อยสายไฟ Alpha คุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็น ท่อ EMT, ท่อ IMC หรือท่อ RSC  COTCO METAL WORKS เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปีในอุตสาหกรรมเหล็ก พร้อมผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กร้อยสายไฟหลากหลายรุ่น ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล และการบริการครบวงจรตั้งแต่ให้คำปรึกษาจนถึงการจัดส่ง ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้ท่อร้อยสายไฟที่มีคุณภาพเหมาะสมกับงาน ด้วยราคาที่คุ้มค่า ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-285-2700 หรือ Line OA: @cotcometalworks