เหล็ก H Beam เหล็กรีดร้อนคุณภาพสูง
เหล็ก H Beam หรือเหล็กเอชบีม
เหล็ก H Beam หรือเหล็กเอชบีม คือ เหล็กรูปพรรณรีดร้อนประเภทหนึ่ง ที่มีขนาดใหญ่และมีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก โดยวัตถุประสงค์สำคัญในการออกแบบให้เป็นรูปตัว H เพราะเป็นรูปลักษณ์ที่เหมาะสำหรับการนำไปใช้รองรับน้ำหนักโครงสร้างที่มีปริมาณมาก โดยที่ตัวเหล็ก H Beam สามารถกระจายน้ำหนักและแรงที่รับมาอย่างทั่วถึงทำให้ความสมดุลแก่โครงสร้าง ในการใช้งานทั่วไปของเหล็กประเภทนี้คือไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุอื่นๆ อย่างปูนซีเมนต์หรือคอนกรีตเสริมทับลงไป เน้นเป็นการปล่อยเปลือยไปเลย เหมาะสำหรับการนำไปประยุกต์ใช้กับอาการที่มีการออกแบบด้วยสไตล์ลอฟต์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร คาเฟ่ สำนักงาน เป็นต้น
CCM Cotco จัดจำหน่ายเหล็กเอชบีมคุณภาพเยี่ยมที่ผลิตด้วยกรรมวิธีที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับสากล วางใจในคุณภาพของเหล็ก H Beam ใช้งานได้ทุกอุตสาหกรรม พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งาน ในขนาดและราคาที่สมเหตุสมผลมากที่สุด โดยเหล็ก H Beam ผ่านการรับรองมาตรฐาน มอก. 1227-2558
เกรดของเหล็ก H BEAM ที่ CCM COTCO จัดจำหน่าย
เหล็กเอชบีมที่ CCM Cotco จัดจำหน่ายสามารถแบ่งได้เป็น 2 เกรดดังนี้
- SS400, SS490, SS540 การรับแรงของเหล็กอยู่ที่ 235-245 N / mm2 (~2,400 ksc)
- SM400, SM490, SM520, SM570 การรับแรงของเหล็กอยู่ที่ 355-365 N / mm2 (~3,600 ksc
รายละเอียดสินค้าเหล็ก H Beam
ด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลายของเหล็ก H Beam หรือเหล็กเอชบีมต่องานโครงสร้างอาคาร ทาง CCM Cotco จึงมีเหล็ก H Beam ให้เลือกใช้ได้ตามความต้องการทั้งขนาดความกว้างxยาว น้ำหนักของแท่งเหล็ก H Beam และพื้นที่ในการใช้สอยที่เหมาะสม โดยผ่านกรรมวิธีผลิตเหล็กรีดร้อนที่ทันสมัย ทำให้ได้เหล็กรูปพรรณที่มีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ทุกโครงการสามารถติดตั้งได้ง่ายๆ เหล็กเอชบีมมีขนาดหน้าตัดให้เลือกตั้งแต่ 100x50 mm. ไปจนถึงขนาดหน้าตัด 900x300 mm. ตอบโจทย์ได้ตั้งแต่งานบ้านพักอาศัยทั่วไป อาคารพาณิชย์ ไปจนถึงอาคารขนาดใหญ่
การนำเหล็ก H Beam ไปใช้งาน
ลักษณะภายนอกของเหล็ก H Beam จะมีหน้าตาที่คล้ายกับเหล็ก I Beam แต่ทั้ง 2 ชนิดนั้นไม่สามารถนำมาใช้งานทนแทนกันได้ เพราะเหล็ก เหล็ก H Beam มีความหนาแน่นและขนาดที่ใหญ่กว่าเหมาะสำหรับงานโครงสร้างอาคารขนาดใหญ่ นำไปเป็นส่วนประกอบของเสา คาน และโครงหลังคา ซึ่งจะทำหน้าที่ในการรองรับน้ำหนักทั้งหมดของโครงสร้าง โดยคุณสมบัติของเหล็กเอชบีมต่องานก่อสร้างมีดังนี้
- มีความทนทานสูงทนต่อการรับน้ำหนักและการบิดงอ และมีความแข็งแรงอย่างสม่ำเสมอตลอดความยาว
- เป็นเหล็กอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ในงานก่อสร้างที่หลากหลายตั้งแต่ที่พักอาศัยไป ตึกระฟ้า สะพาน และโครงสร้างทางอุตสาหกรรม
- ด้วยขนาดที่ใหญ่ทำให้ลดจำนวนการใช้เหล็กมากกว่าชนิดอื่นๆ ช่วยประหยัดต้นทุนได้ดี
เหล็ก H Beam ต่างจากเหล็ก I Beam ยังไง
เหล็กเอชบีม (H Beam) และเหล็กไอบีม (I Beam) ทั้งคู่คือเหล็กรูปพรรณรีดร้อนที่มองเผิน ๆ อาจดูคล้ายกันมาก แต่ความจริงแล้วสเปกหรือรายละเอียดของทั้งคู่นั้นถือว่ามีความแตกต่างกันอยู่หลายมิติไม่ว่าจะเป็น ลักษณะภายนอกที่เหล็กเอชบีม (H-Beam) มีตัวปีกที่ไม้โค้งเข้าสู่แกนกลาง โดยที่ตัวปีกหนากว่าแกนกลางอย่างชัดเจน ส่วนทางด้านเหล็กไอบีม (I-Beam) ปีกจะมีความลาดเอียงเข้าสู่แกนกลางมากกว่า ตัวโคนปีกจะหนากว่าส่วนปลายปีก
น้ำหนักของเหล็กไอบีม (I-Beam) มีน้ำหนักต่อเมตรมากกว่าเหล็กเอชบีม (H-Beam) เพื่อรองรับแรงกระแทกที่มากกว่า ลักษณะการใช้งานเหล็กไอบีม (I-Beam) เหมาะสำหรับงานโครงสร้าง เสา คาน โครงหลังคา ส่วนเหล็กไอบีม (I-Beam)เหมาะกับงานก่อสร้างที่ต้องรับน้ำหนักมากหรือรองรับแรงกระแทกสูง และในแง่ของมาตรฐานอุตสาหกรรมทั้งคู่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. 1227-2558 เหมือนกัน
มาตรฐานการผลิตของเหล็ก H Beam
เหล็ก H Beam นั้นโดยทั่วไปสำหรับการผลิตเหล็กชนิดนี้ตามหลักสากล มีการรับรองมาตรฐานจากหลากหลายประเทศชั้นนำไม่ว่าจะเป็น มาตรฐานสาธารณรัฐประชาชนจีน (GB/T), มาตรฐานสหรัฐอเมริกา (ASTM), มาตรฐานยุโรป (EN), มาตรฐานมาตรฐานเกาหลี (KS) และมาตรฐานญี่ปุ่น (JIS) โดยเหล็กเอชบีมที่ CCM Cotco จัดจำหน่ายจะได้มาตรฐานดังนี้
- มอก. 1227-2558 เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนมาตรฐานบังคับทางโยธาและวัสดุก่อสร้าง
- JIS G3101 มาตรฐานสำหรับเหล็กเอชบีม ที่มีการกำหนดขนาด รูปร่าง น้ำหนัก และความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ของเหล็กชนิดนี้
